“ขายชอร์ต” กำกับเพื่อเสถียรภาพในตลาดทุน

12 พฤษภาคม 2568
อ่าน 4 นาที



ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับแรงเทขาย ธุรกรรมการขายชอร์ต หรือ Short Selling มักถูกหยิบยกมาเป็น
กระแสในวงกว้าง แม้ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนที่มาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายด้าน
ภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผลพวงเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก
ด้วยเช่นกัน แต่การขายชอร์ตก็ยังเป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกหยิบยกและตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคา
หุ้นไทยลดลงหรือไม่

ก่อนจะเล่าถึงบทบาทของ ก.ล.ต. ในเรื่องนี้ อยากจะขอให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนสักนิด “การขายชอร์ต” นั้น
ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีกลไกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตลาด ผ่านกระบวนการ
ค้นหาราคาที่เหมาะสม (price discovery) โดยผู้ลงทุนต้องยืมหุ้นจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ก่อนทำการ
ขายชอร์ต ภายหลังต้องซื้อหุ้น (ที่ยืมมาขาย) คืนให้ บล. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผิดนัดการส่งมอบ (failed
trade) โดยกลไกนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้น

ในมุมมองอีกด้านหนึ่ง การขายชอร์ตก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาด
มีความผันผวน ซึ่งอาจสร้างความกังวลแก่ผู้ลงทุนทั่วไปที่อาจมองได้ว่า การขายชอร์ต เข้ามาสร้างความ
ได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ลงทุนหรือไม่ รวมทั้งอาจมีความกังวลต่อการกำกับดูแลการขายชอร์ตที่ไม่เป็นไป
ตามเกณฑ์ เช่น การขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในครอบครอง (Naked Short Selling) เป็นไปอย่างเข้มข้นเพียงพอ
หรือไม่

ประเด็นเหล่านี้ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการกำกับดูแลอย่างรอบคอบ สอดคล้องกับบริบทของตลาด
หุ้นไทยและสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้การขายชอร์ตเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริม
ประสิทธิภาพของตลาดหุ้น ขณะเดียวกันก็ป้องกันผลกระทบที่อาจลดทอนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน โดยได้
ประสานการทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อกำกับดูแลซื้อขายหลักทรัพย์
ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นธรรม โดยเฉพาะมาตรการกำกับดูแลการขายชอร์ตที่ ก.ล.ต. ได้
เห็นชอบให้ตลาดหลักทรัพย์นำเกณฑ์ Uptick มาใช้ (กำหนดให้ขายในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย
เพื่อป้องกันการกดดันราคาหลักทรัพย์อย่างไม่เป็นธรรม) ทั้งยังกำหนดให้การซื้อขายหุ้นของผู้ลงทุนกลุ่ม HFT
(High Frequency Trading) จำกัดเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET100 เพื่อลดความผันผวนของหุ้นขนาดกลางและเล็ก
และคงมาตรการ Minimum Resting Time (MRT) เพื่อป้องกันการใส่ถอนคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็วเกินไป

ในระหว่างที่ ก.ล.ต. ขันน็อตการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ให้แน่นขึ้น การแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการบังคับใช้ก็ได้ดำเนินควบคู่กันไปเช่นกัน โดยหนึ่งในหลายมิติของการปรับปรุงกฏหมาย
ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการกำกับดูแล โดยการออกเป็น พ.ร.ก.
คือ “การกำกับดูแลการขายชอร์ต” โดยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายสามารถตรวจสอบและลงโทษ
ผู้กระทำผิดรายบุคคลได้(ลูกค้าของ บล.) เพิ่มเติมจากกระบวนการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ บล. ใน
ปัจจุบัน โดยขณะนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.ก. แก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการ
ประชุม เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา

ย้อนกลับมาที่ประเด็นนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกรวมถึงไทยด้วยนั้น ก.ล.ต.
ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสนับสนุนการใช้มาตรการในการกำกับ
ดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นการชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงกลางเดือน
เมษายนที่ผ่านมา เช่น การห้ามขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์, การปรับ Ceiling/Floor, การปรับกรอบราคา
Dynamic Price Brand เป็นต้น เพื่อช่วยลดความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะสั้น

หลังจากยุติมาตรการชั่วคราวแล้ว ก.ล.ต. ยังสนับสนุนมาตรการกำกับดูแลการขายชอร์ต ล่าสุด ตามที่
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอ โดยห้ามขายชอร์ตในหุ้นกลุ่ม Non-SET100 เพื่อลดความผันผวนของราคา
หลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็กที่อาจมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ แต่การขายชอร์ตหลักทรัพย์ยังต้องอยู่ภายใต้
เกณฑ์ Uptick ซึ่งต้องขายชอร์ตหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า ก.ล.ต. ได้เข้ามามีบทบาทในการดูแลให้กลไกการขายชอร์ตมีความโปร่งใส
และป้องกันการขายชอร์ตในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติและสามารถลงโทษ
ผู้กระทำความผิดรายบุคคลได้ การจำกัดการขายชอร์ตในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง ดังนั้น จึงหวังว่าการกำกับดูแล
ที่เข้มข้นจะช่วยให้ผู้ลงทุนมั่นใจในตลาดที่เปิดกว้าง มีเสถียรภาพ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขัน
กับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกได้

                                         *******************************

จากบทความ "“ขายชอร์ต” กำกับเพื่อเสถียรภาพในตลาดทุน​" โดยนางสาวอาชีนี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  ในคอลัมน์ "เล่าให้รู้กับ ก.ล.ต." นสพ. ประชาชาติธุรกิจ